การวินิจฉัยโรคพาร์กินสันในปัจจุบันอาศัยการซักประวัติและการตรวจร่างกายเป็นสำคัญ และวินิจฉัยจากอาการเคลื่อนไหวผิดปกติ (Motor symptoms) ได้แก่อาการสั่น (Tremor) อาการแข็งเกร็ง (Rigidity อาการเคลื่อนไหวช้า (Bradykinesia) หรือเคลื่อนไหวน้อย (Hypokinesia) มีการทรงตัวที่ไม่มั่นคง (Posturalinstability) และปัญหาการเดินติดขัด ร่วมกับอาการนอกเหนือการเคลื่อนไหว (Non-motor symptoms)ความแม่นยำในการวินิจฉัยโรคพาร์กินสันด้วยประสาทแพทย์อยู่ที่ประมาณ ร้อยละ 80 โดยเฉพาะเมื่อได้ตรวจติดตามอาการอยู่หลายครั้ง แต่หากเป็นโรคพาร์กินสัน ในระยะแรกที่อาการและอาการแสดงยังไม่มาก ความแม่นยำในการวินิจฉัยจะลดลง อยู่ที่ประมาณ ร้อยละ 40-50 ทำให้การวินิจฉัยผู้ป่วยพาร์กินสันตั้งแต่ระยะ เริ่มต้น (early stage) ทำได้ยาก และมีผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการวินิจฉัย (underdiagnosed) จำนวนมาก นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางระบบประสาท จำนวนจำกัด และในบางพื้นที่ยังขาดแคลนแพทย์สาขานี้ จึงทำให้ผู้ป่วยในบางพื้นที่เข้าถึงการตรวจวินิจฉัยและการรักษาได้ยาก ในปัจจุบันกว่าที่ผู้ป่วยจะได้รับการ วินิจฉัย จึงมีอาการค่อนข้างมาก หรืออยู่ในระยะการดำเนินโรคระยะกลางแล้ว ซึ่งทำให้มีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่มาก ผู้ป่วยเริ่มเกิดความทุพพลภาพและส่งผลต่อ คุณภาพชีวิต
|